ท่องภูป่าเปาะ ฟูจิ เมืองเลย
ไม่แปลกที่ดินแดนแห่งอีสานเหนืออย่างเมืองเลย จะเต็มไปด้วยความงดงามโรแมนติกโดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ จนปัจจุบันกลายเป็นหมุดหมายของนักเดินทางมากหน้าหลายตา
จนถึงวันนี้ ต้องยอมรับว่า “เลย” เป็นเมืองปิดที่ซุกซ่อนความงามเอาไว้ในวงล้อมของขุนเขา โดยเฉพาะการมาเยือนเมืองเลยในช่วงอากาศหนาวเย็น ช่วงที่สายหมอกยังคงงดงาม จนหลายต่อหลายคนที่นั่น เลือกเล่าชีวิตและความงามของพวกเขาผ่านการเปิดภู หรือเปิดหมู่บ้านสู่การท่องเที่ยวให้ผู้สนใจเข้ามาสัมผัส
หนึ่งในภูที่เราอยากแนะนำนั้น คือ ‘ภูป่าเปาะ’ ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่แสนสวยงาม และได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘ฟูจิเมืองเลย’ กันทีเดียว และหากจะบอกว่าภูป่าเปาะคืออันซีนไทยแลนด์ที่ทุกคนต้องไปสัมผัส และยลโฉมด้วยตาสักครั้งก็คงไม่เกินเลยความจริงไปนัก
ภูป่าเปาะ ตั้งอยู่ที่บ้านผาหวาย ตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน จังหวัดเลย ห่างจากสวนผาหินงามหรือคุนหมิงเมืองไทยประมาณ 7 กม. ปัจจุบันกลายเป็นจุดหมายหนึ่งของคนรักทะเลหมอกเมืองเลยโดยเฉพาะเป็นจุดเช็คอินยอดนิยมในช่วงฤดูหนาว
ว่ากันว่า ที่มาของคำว่า ภูป่าเปาะ นั้น มาจากภูเขาที่มีป่าไผ่เปาะขึ้นรายรอบ โดยไผ่เปาะเป็นชื่อของต้นไผ่ชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นได้ทั่วไปตามภูเขา และยังสามารถพบได้ทุกๆ อำเภอของจังหวัดเลยอีกด้วย ลักษณะเด่นๆ ของไผ่เปาะนั้น เป็นไผ่ที่มีความเปราะและแตกหักง่าย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่ภูป่าเปาะจะเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวนั้น พื้นที่บริเวณนี้ชาวบ้านมีการบุกรุกป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอย ในเวลาต่อมาจึงเกิดความร่วมมือกันระหว่างผู้ใหญ่บ้านและหัวหน้าป่าไม้ คิดหาวิธีให้ชาวบ้านมีรายได้เพื่อยังชีพ จึงเกิดมีการสร้างจุดชมวิว เพื่อป้องกันการบุกรุกพื้นที่ป่า และปัจจุบันกลายเป็นจุดชมวิวธรรมชาติที่สวยงามน่าประทับใจ เหนือยอดภูที่ความสูงราว 900 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง ถือเป็นจุดที่สามารถมองเห็นภูหอ หรือภูเขายอดตัดเป็นเส้นแบนราบ เป็นจุดไฮไลท์ที่มองได้จากภูป่าเปาะ โดยสัณฐานของภูหอคล้ายคลึงกับภูเขาไฟฟูจิยามาของญี่ปุ่น ทำให้ชาวบ้านและผู้มาเยือนจึงคุ้นเคยกับชื่อของฟูจิเมืองเลยกันมาเนิ่นนาน นอกจากมองเห็นภูหอแล้ว บนภูป่าเปาะยังสามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา และในวันที่อากาศเปิด ยังสามารถเห็นวิวขุนเขาในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงได้อย่าแจ่มชัดอีกด้วย