องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน)

มหัศจรรย์ “ป่าชายเลน” เติมสีสันและชุบชีวิตให้ชุมชนปากน้ำประแส จ.ระยอง

1625727900
ขนาดตัวอักษร

          เรียนรู้และสำรวจชุมชนปากน้ำประแส พื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่สะท้อนให้เห็นผ่านรูปแบบวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ และสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ต่าง ๆ

          หากพูดถึง "ระยอง" หลายคนอาจจะนึกถึงภาพของหาดทราย น้ำทะเลสีคราม เสียงคลื่นกระทบฝั่ง วิวสวยของเกาะแก่งที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็นเกาะเสม็ด หมู่เกาะมัน หรืออาหารพื้นถิ่นรสชาติกลมกล่อม หากแต่คราวนี้เราจะชวนทุกคนไปสัมผัสอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจ ก็คือ "ชุมชนปากน้ำประแส" ชุมชนในพื้นที่อำเภอแกลง ที่ยังคงใช้วิถีชีวิตเรียบง่าย แม้ว่าความเจริญของเทคโนโลยีจะคืบคลานเข้าไปถึง แต่ชาวบ้านก็ยังรักษาตัวตนแต่ดั้งเดิมเอาไว้เป็นอย่างดี พร้อมกับเรียนรู้และสำรวจชุมชนริมแม่น้ำที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ดูแลโดยวิสาหกิจท่องเที่ยววิถีชุมชนตำบลปากน้ำประแส ที่นำผลผลิตมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นกระจายรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังผ่านการประเมินเกณฑ์การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนของประเทศไทย
 


ปากน้ำประแส ชุมชนก่อกำเนิดจากสายน้ำ

          ชุมชนปากน้ำประแส นับเป็นชุมชนโบราณตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยมีแม่น้ำประแสซึ่งเกิดจากการรวมตัวของแม่น้ำหลายสาย ระยะทาง 26 กิโลเมตร ไหลมารวมกัน ณ ที่แห่งนี้ ซึ่งเปรียบเหมือนเส้นเลือดคอยหล่อเลี้ยงชาวชุมชนตลอดมา ทั้งยังเป็นแหล่งสร้างอาชีพให้ผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำประมง การทำนากุ้ง การเลี้ยงปลาน้ำกร่อย ตลอดจนต่อยอดไปยังการเกษตร เช่น การปลูกมะพร้าวและมะม่วง เพื่อนำไปแปรรูป รวมถึงเป็นแหล่งค้าขายให้ผู้คนมาจับจ่ายใช้สอย อีกทั้งยังมีการสร้างโฮมสเตย์เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ และร่วมทำกิจกรรมกับชาวบ้านอีกด้วย
 

 


ทุ่งโปรงทอง เส้นทางศึกษาธรรมชาติ

 

 

 

          แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ เดิมเป็นแหล่งทำการเกษตรและปศุสัตว์ แต่ทว่าธรรมชาติได้ถูกทำลายไปมากจากการบุกรุกเผาพื้นที่ป่า ดังนั้น ทางเทศบาลและชาวบ้านจึงร่วมมือกันฟื้นฟูต้นไม้และระบบนิเวศของป่าชายเลนกลับมาใหม่ พร้อมสร้างสะพานไม้ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร พาดผ่านกลางทุ่ง ไว้เป็นเส้นทางธรรมชาติให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาศึกษา เมื่อเดินมาจุดชมวิวก็จะพบกับทุ่งต้นโปรงกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา โดยสีของใบจะเปลี่ยนไปตามทิศทางของแดด ซึ่งจะสวยงามที่สุดในช่วง 11.00-15.00 น. ที่จะเปลี่ยนเป็นทุ่งสีทองงามอร่ามตา ซึ่งเปิดให้เข้าชมฟรี ทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น.
 


นั่งเรือชิล ชมความสวยงามของอ่าวไทย

          ปากน้ำประแส ถือเป็นแหล่งที่มีป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้นานาพรรณ แถมยังเป็นพื้นที่อนุบาลสัตว์ทะเลตัวน้อยมากมาย ทั้งกุ้ง หอย ปู และปลาตีน เป็นต้น ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินที่ไม่ควรพลาดของชุมชนปากน้ำประแส โดยมีกิจกรรมล่องเรือสัมผัสวิถีชีวิตคนชาวคลองริมแม่น้ำประแส อันเป็นสายน้ำสำคัญของจังหวัดระยอง ตลอดสองฟากฝั่งที่เรือล่องไปเรื่อย ๆ จะได้พบทัศนียภาพอันสวยงามของต้นโกงกาง ต้นแสม ต้นลำพู ที่แข่งกันชูกิ่งก้านสาขาผลิใบสวยให้ชม พร้อมกับท้องทะเลอ่าวไทยและฝูงนกหาปลา ที่มองออกไปแล้วชวนให้รู้สึกสบายกายสบายใจ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพักผ่อน

 


 

ล่องแพเปียก ดูเหยี่ยวแดง

          อีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิตสำหรับผู้ที่มาพักสเตย์โฮม กับกิจกรรมแอดเวนเจอร์เพิ่มความตื่นเต้นไปกับการล่องแพเปียก สนนราคาอยู่ที่ 200 บาทต่อคน เรือจะออกรอบละ 15 คน หากไปไม่ครบจำนวนก็ไม่เป็นไรสามารถไปรวมกลุ่มกับคนอื่นได้ ระหว่างทางเราสามารถนั่งแช่ขาในน้ำเย็นชิล ๆ ไปพลาง ๆ เมื่อถึงที่หมายก็เล่นน้ำกับเพื่อน ๆ ได้เต็มที่ จากนั้นปิดท้ายด้วยการชมเหยี่ยวแดง ที่ออกมาบินโฉบราวกับออกมาทักทายและต้อนรับนักเดินทาง โดยทางแพก็เตรียมเหยื่อไว้ให้นักท่องเที่ยวให้อาหารเหยี่ยวเหล่านี้ด้วย เวลาที่เหมาะสำหรับการชมคือช่วง 5 โมงเย็น เป็นเวลาที่เหยี่ยวแดงจะออกมาหากินมากที่สุด

 


ชิมอาหารพื้นถิ่น ของดีไม่ควรพลาด

          ส่วนอาหารพื้นถิ่นของที่นี่ก็มีดีไม่แพ้กัน แถมยังกลายเป็นสินค้าที่นักท่องเที่ยวคนไหนมาเยือนจะต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับไป ได้แก่ แจงลอน หรือทอดมันประแส เมนูทอดมันคลุกมะพร้าวแล้วนำมาย่างร้อน ๆ พร้อมกิน และกะปิ ซึ่งบางร้านก็เปิดให้คนที่สนใจเข้าไปศึกษาตั้งแต่การหาเคย เคล้า หมัก ตำ จนได้เป็นกะปิหอม ๆ ไว้นำกลับไปทำอาหาร
 


เดินตลาดเก่า 100 ปี เรียนรู้วิถีชาวบ้าน

          เนื่องจากเป็นพื้นที่ติดทะเล ดังนั้นที่นี่จะมีตลาดขายของสด โดยเฉพาะอาหารทะเล ตั้งแต่ช่วงตี 4-5 ส่วนใหญ่ก็เป็นชาวบ้านมาจับจ่ายใช้สอยซื้อของไปทำกับข้าวกันที่บ้าน ช่วงหลัง 8 โมงเช้าเป็นต้นไปบรรยากาศของที่นี่ก็จะเปลี่ยนไปเป็นสภากาแฟ แหล่งพบปะพูดคุยของกลุ่มผู้คนมากมาย ทั้งกลุ่มเด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นไป-มารอบ ๆ เสียงพูดคุยของพ่อค้า-แม่ขายกับกลุ่มคนที่สัญจรไป-มา แถมยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถมาเดินชิมอาหารอร่อย พร้อมซื้อของที่ระลึกกลับไปฝากที่บ้านก็ยังได้ สำหรับของขึ้นชื่อที่นี่ได้แก่ ของแห้ง อย่างกุ้งแห้ง กะปิ ปลาหมึก ปลากุเลาเค็ม ที่รับรองว่าหากลองลิ้มรสแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน
 



 

 

 

          ถือเป็นอีกหนึ่งชุมชนที่มีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นชุมชนเก่าแก่แล้ว ยังเป็นชุมชนที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างดี จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่น่าสนใจ แถมยังมีกิจกรรมให้เข้าไปใกล้ชิดและเรียนรู้วิถีของชาวปากน้ำประแสอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก
เว็บไซต์ thailandtourismdirectory.go.th
เว็บไซต์ district.cdd.go.th
เว็บไซต์ dmcr.go.th
เว็บไซต์ cbtthailand.dasta.or.th
เว็บไซต์ prasae.com