องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน)

9 จุดเช็คอิน ห้ามพลาด! ตามรอยซีรี่ย์ Last twilight ภาพนายไม่เคยลืมของเมืองสงขลา

1710320700
ขนาดตัวอักษร

 

1. รูปปั้น“นางเงือกทอง” สัญลักษณ์อันโดดเด่นของจังหวัดสงขลาตั้งอยู่บริเวณปลายแหลมสมิหลา เป็นแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวนิยมจะไปถ่ายภาพคู่กับนางเงือกกัน ซึ่งรูปปั้นนางเงือกมีเรื่องราวตามนิยายปรัมปราของไทยโบราณที่เล่ากันไว้ว่า นางเงือกจะมานั่งหวีผม บนชายหาดที่สมิหลาด้วยหวีทองคำ จากนั้นมีชายชาวประมงเดินผ่านมาทำให้นางเงือกตกใจ เลยรีบหนีลงทะเลไปจนลืมหวีทองคำไว้บนฝั่ง ชาวประมงเห็นจึงก็เก็บหวีทองคำไว้ เพื่อรอคอยนางเงือกที่หาดนั้นเสมอ แต่นางเงือกก็ไม่เคยปรากฏกายให้เห็นอีกเลย จากนั้นก็มีคนมาปั้นรูปปั้นเพื่อระลึกถึง ใครที่ยังไม่เคยมา ห้ามพลาดนะคะ

 

2. วงเวียนหาดสมิหลา อยู่บริเวณชายหาดสมิหลา มีป้าย Songkhla city  ของสวนสาธารณะเมืองสงขลา เป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งของเมือง บริเวณนี้จะมีรถนำเที่ยวรอบเมืองสงขลา ทั้งรถราง รถตุ๊กตุ๊ก และรถสองแถวนำเที่ยวไปรอบเมืองสงขลา และยังมีการให้บริการรถม้า และม้าจ๊อกกี้มีม้าให้บริการเดินชมชายหาดอีกด้วย

 

3. ชายหาดสมิหลา หาดทรายขาวสะอาด ต้นสนเรียงรายร่มรื่น มีรูปปั้นนางเงือก สัญลักษณ์ของจังหวัดสงขลา บริเวณชายหาดสมิหลา มีการจำลองประตูเมืองเก่าของสงขลา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับรูปปั้นหนูกับแมว บริเวณโดยรอบจัดสวนหย่อมดูร่มรื่นเหมาะเป็นที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจ

 

4. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสงขลา เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในเมืองสงขลา ตรงข้ามกำแพงเมืองจังหวัดสงขลา เป็นโบราณสถานของชาติ มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบจีน อายุกว่า 100 ปี อาคารพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา เดิมเป็นคฤหาสน์ของ พระยาสุนทรานุรักษ์ (เนตร ณ สงขลา) ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลา ต่อมาได้ถูกใช้เป็นสถานที่ของหน่วยงานต่างๆและเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสงขลาในปัจจุบัน ภายในจัดแสดงเรื่องราวชองประวัติศาสตร์เมืองสงขลา ศิลปวัตถุที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม อันเป็นเอกลักษณ์ของภาคใต้และของประเทศไทย เปิดให้เข้าชมทุก วันพุธ - วันอาทิตย์ เวลา 9.00 น. - 16.00 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างประเทศ 150 บาท สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 7431 1728                                  เว็บไซต์ : http://www.finearts.go.th/songkhlamuseum/

 

5.1 โรงสีแดง หับ โห้ หิ้น โรงสีข้าวเก่าแก่ในย่านเมืองเก่าของสงขลา ตัวอาคารทาด้วยสีแดง มีความขลังแบบคลาสสิกและเป็นแลนด์มาร์กในย่านเมืองเก่าสงขลาที่ห้ามพลาด ตั้งอยู่บนถนนนครนอก หลายคนคงสงสัยว่า “หับ โห้ หิ้น” แปลว่าอะไร จริงๆ แล้ว “หับ โห้ หิ้น” เป็นภาษาจีนฮกเกี้ยน แปลว่า เอกภาพ ความกลมกลืน และความเจริญรุ่งเรือง ปัจจุบัน “หับ โห้ หิ้น” หรือโรงสีแดงแห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีชีวิต เป็นอุทยานการเรียนรู้นครสงขลา เป็นศูนย์กลางในการจัดกิจกรรมของชุมชนมากมาย และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ต่างชาติเดินทางมาเที่ยวชมกันไม่ขาดสาย

5.2 ท่าเรือ/ท่าน้ำทะเลสาบสงขลา ณ โรงสีแดง หับ โห้ หิ้น ที่มองเห็นทะเลสาบสงขลาและฝั่งตรงข้ามเป็นชุมชนตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร ซึ่งเป็นยุคแรกของการกำเนิด “ซิงกอร่า” ก่อนมาสู่ยุคแหลมสน และ ยุคบ่อยาง สงขลาในปัจจุบัน หากนักท่องเที่ยวมายืนชมทิวทัศน์ที่จุดนี้ ช่วงเวลาเย็นตอนที่ท้องฟ้ามีสีชมพูจากแสงสุดท้ายของพระอาทิตย์ตกดินจะสวยงามและเป็นทิวทัศน์ที่น่าประทับใจ

 

6.ศาลเจ้าพ่อกวนอู ย่านถนนนางงามในตัวเมืองสงขลา ศาลเจ้าที่ประดิษฐานเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ สร้างเมื่อ พ.ศ.2538 ด้วยเงินบริจาคของชาวไทยเชื้อสายจีน ที่นับถือศาสนาพุทธ และมีความศรัทธาต่อเทพเจ้ากวนอู เทพผู้มีความจงรักภักดี กตัญญูรู้คุณ มีคุณธรรม และซื่อสัตย์เป็นเลิศ ชาวไทยเชื้อสายจีนนับถือ เพื่อความเป็นสิริมงคล และมีความสุขความเจริญในการประกอบอาชีพ เปิดทุกวัน เวลา 07.00 – 18.00 น.

 

7. ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา เป็นหนึ่งในสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของเมืองเก่าสงขลา เป็นสถานที่ศักดิิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวสงขลา เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยเชื่อสายจีน     นักท่องเที่ยวที่มาเยือนยังเมืองเก่าสงขลาต้องมาสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลาและศาลเจ้าพ่อกวนอู ที่ดูแลปกปักรักษาที่นี่มาแต่โบราณ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล               เปิดทุกวัน  เวลา 07.00 – 18.00 น.   

 

8. สตรีทอาร์ต (Street Art) บอกเล่าเรื่องราวย้อนอดีตของเมืองสงขลาและรูปแบบศิลปะที่สวยงาม กระจายตามถนนทั้ง 3 สายในย่านเมืองเก่าสงขลา เช่น กาแฟรถเข็น อาแปะเปิดประตู ยื่นหมวกกันน็อก, ภาพเรือสำเภา, ภาพร้านบะหมี่, ภาพหมา แมว หนู, ภาพเรือประมง, ภาพกำแพงศาลเจ้าพ่อหลักเมือง, ภาพเด็ก 3 เชื้อชาติ ไทย มุสลิม และจีน ซึ่งเป็นตัวแทนคน 3 เชื้อชาติที่มาอยู่ร่วมกันที่สงขลา, ภาพโนรา นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาย่านเมืองเก่าสงขลาสนุกสนานกับการตามหาภาพวาดแต่ละจุดและถ่ายภาพเก็บไว้เป็นความทรงจำเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน

 

9.ท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์พิทักษ์ สมัยโบราณสงขลามีท่าเทียบเรือขนส่งสินค้าจำนวนมาก เป็นศูนย์กลางของการคมนาคมทางเรือ มีเรือบรรทุกสินค้าทั้งภายในและภายนอกประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนสินค้า “ท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์พิทักษ์” เป็นอีกท่าเรือที่ยิ่งใหญ่ เคยมีเรือสำเภาขนาดใหญ่มาจอดเพื่อขนส่งสินค้า ถนนทางเดินระหว่างท่าน้ำพิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์เป็นถนนเส้นหลักของเมืองเก่าสงขลา ปัจจุบันเป็นสถานที่่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป เก็บความประทับใจ บรรยากาศยามเย็น และยังมีตึกสงครามโลก ที่เป็นสถาปัตยกรรมสวยงามสำหรับการถ่ายภาพชิคๆด้วย