องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน)

อพท.เชียงราย พาท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเสน่ห์ชาติพันธ์ุเชียงราย

1717427940
ขนาดตัวอักษร

วันที่ 30 – 31 พฤษภาคม 2567 อพท.เชียงราย ได้เข้าร่วมกิจกรรมทดสอบเส้นทางท่องเที่ยวและประชาสัมพันธ์ ภายใต้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดเชียงราย "3 พี่น้องท้องถิ่นรวมใจ สู่เชียงรายเที่ยวได้ ทั้งปีมีดีทุกเดือน" ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เสริมสร้างกิจกรรมการท่องเที่ยวให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และกระจายรายได้สู่ชุมชน 

 

 

เส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเสน่ห์ชาติพันธ์ุเชียงราย เป็นการเสนอเส้นทางท่องเที่ยวชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ 3 ชุมชน วันแรกเริ่มจากชุมชนบ้านผาหมี อำเภอแม่สาย เป็นชุมชนชาติพันธุ์อาข่า ชุมชนได้นำต้นทุนทัศนียภาพโดยรอบหมู่บ้านและวัฒนธรรมดั้งเดิมและวิธีชีวิตของกลุ่มชาติพันธ์ุอาข่า พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศวัฒนธรรม มีกิจกรรมท่องเที่ยวที่ให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสและร่วมกิจกรรมด้วย 

เมื่อมาถึงชุมชนบ้านผาหมี มีการจัดแสดงต้อนรับแบบชาติพันธุ์อาข่า โดยนำการแสดงวัฒนธรรมอาข่า ผ่านบทเพลง เครื่องดนตรี อุปกรณ์ ท่าทาง เครื่องแต่งกายชุดอาข่าที่ประดับประดาด้วยเครื่องเงินที่สวยงามผ่านการแสดงที่เป็นสนุกสนาน โดยเป็นการแสดงประกอบเพลง เช่น การเต้นกระทุ้งกระบอกไม้ไผ่ ทำให้เกิดเสียงดนตรีจากขุนเขา และการแสดงท่าทางประกอบเพลง ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาสามารถร่วมสนุกกับนักแสดงของชุมชนได้ พร้อมทั้งสามารถถ่ายรูปกับนักแสดง เพื่อเก็บเป็นที่ระลึกได้ 

จากนั้นเรียนรู้วิถีกาแฟแบบดั้งเดิม และลงมือดริปกาแฟ กาแฟดอยผาหมี กาแฟต้นแรกของจังหวัดเชียงราย เป็นกาแฟพันธุ์อาราบิก้า เป็นพันธุ์พืชหนึ่งที่ถูกปลูกขึ้นทดแทนการปลูกฝิ่นในสมัยก่อน สืบทอดเป็นภูมิปัญญาทางการเกษตรของชาวอาข่าที่ดอยผาหมี เป็นผลผลิตท้องถิ่นที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน ก่อเกิดกิจกรรมของชุมชนและส่งผลดีทางเศรษฐกิจมากมายแก่ชุมชนในปัจจุบัน ซึ่งนักท่องเที่ยวลงมือดริปกาแฟจากกระบอกไม้ไผ่ด้วยตนเอง พร้อมลิ้มรสรสชาติกาแฟของตนเอง และถ่ายรูปคู่กับดอยผาหมีนอนหงายด้วย

นักท่องเที่ยวได้ลงมือ ทำข้าวปุก ขนมที่มาพร้อมลมหนาวและการเฉลิมฉลองฤดูกาลเก็บเกี่ยวทางภาคเหนือ ที่กินหน้าไหนก็ไม่อร่อยเท่าหน้าหนาว เรียนรู้กระบวนการทอผ้า เช่น การดีดฝ้าย การปั่นฝ้าย การทอผ้า 

เมื่อนักท่องเที่ยวได้ลงมือทำข้าวปุกแล้ว พาเรียนรู้วัฒนธรรมอาหารอาข่า และลงมือทำยำผักอาข่า (ห่อปะโช) โดยการใช้ผักในชุมชน มายำแบบสไตล์อาหารอาข่า ที่มีรสชาติไม่เหมือนกับยำทั่วไป มีรสชาติไม่เผ็ดไม่เปรี้ยวไม่หวาน เหมือนยำทั่วไป การยำนั้นใส่ถั่วลิสงกับงาขาวคั่วหอมๆ ใส่ขิง ต้นหอม ผักชี ใส่พริก และใส่เกลือ ถือว่าเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก และนำไปรับประทาน 

จากนั้น พาทุกท่านรับประทานอาหารอาข่า วัฒนธรรมของอาข่า จะมีอาหารอาข่าให้นักท่องเที่ยวได้เลือกอย่างหลากหลาย อาทิ หมูผัดรากชู น้ำพริกถั่ว ยำผัก ลาบดอย รับประทานคู่กับข้าวดอยหอมอร่อย และภาชนะที่ใช้นั้นมีความสวยงามเข้ากับสิ่งแวดล้อม ในการใช้วัสดุธรรมชาติมาจัดวางบนใบตองและอาหารที่ใส่ในกระบอกไม้ไผ่ นอกจากความอร่อยที่ได้ลิ้มรสแล้ว 


เมื่อรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้ว ชุมชนได้พานักท่องเที่ยวเดินเส้นทางธรรมชาติ เส้นทางน้ำไหลห้วยน้ำดั้น เป็นเส้นทางลัดเลาะสายน้ำที่ไหลเข้าไปในถ้ำหลวง นักท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้ในเรื่องของธรรมชาติ เรื่องราวของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ 13 หมูป่า รวมทั้ง เรื่องราวของความร่วมมือของผู้คนมากมายที่เข้ามาช่วยเหลือกัน ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตรได้

จากนั้น พากันเข้าที่พัก เพื่อเดินทางไปยัง ชุมชนบ้านแม่คำสบเปิน อำเภอแม่จัน เป็นชุมชนชาติพันธุ์ไทยอง มีกิจกรรมปั้มลายคำ ที่ให้นักท่องเที่ยวได้ลงมือปั้มสีตามปีนักษัตรของตนเอง หรือรูปแบบต่างๆ โดยได้รับการออกแบบจากอาจารย์ทรงเดช ทิพย์ทอง ศิลปินชื่อดังเมืองเชียงราย เป็นผู้ออกแบบ เมื่อลงมือปั้มลายคำเสร็จแล้ว สามารถนำกลับไปเป็นของที่ระลึกได้

นอกจากกิจกรรมปั้มลายคำแล้ว ยังมีกิจกรรมตัดตุงไส้หมูให้นักท่องเที่ยวได้ลงมือทำเช่นกัน โดยจะนำกระดาษสีต่างๆ มาตัดให้เป็นตุงไส้หมู เป็นองค์ความรู้ที่มีมาแต่โบราณ ซึ่งชาวล้านนาจะใช้ในพิธีทางศาสนา หรือกิจกรรมทางประเพณีของชาวล้านนา โดยเฉพาะชนกลุ่มไท ได้แก่ ไทยวน ไทลื้อ ไทเขิน ไทยอง ไทใหญ่ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีบริการแช่เท้าสมุนไพรกลุ่มผู้สูงอายุฯ รับประทานอาหารแบบขันโตกไทยอง พร้อมชมการแสดงของชุมชน จากนั้นเข้าที่พัก เพื่อลุยกันอีกหนึ่งวัน

เริ่มต้นวันที่สอง พวกเราตื่นกันแต่เช้า เพื่อนั่งรถอีแต๋นไปชมบรรยากาศยามเช้าของชุมชน เยี่ยมชมบ้านเก่าไทยองที่อนุรักษ์ไว้อยู่ไม่กี่หลังแล้ว

จากนั้น พาทุกท่านไปรับประทานอาหารเช้า พร้อมกับเรียนรู้การ workshop โกโก้แบบคนยอง ณ Boo Chocolate เป็นไร่ปลูกโกโก้และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ และร่วมกัน workshop Craft Chocolate Tasting เรียนรู้และชิมโกโก้ตั้งแต่เมล็ดไปจนเป็นช็อกโกแลต 

 และพาไปเยี่ยมชมโอโซนฟาร์ม ภายในฟาร์มมีการปลูกเมล่อน และพืชผักทานสดหลายชนิด มีความปลอดภัย และได้นำมาประกอบอาหารภายในร้านให้ลูกค้าได้รับประทาน ภายใต้ farm to table พร้อมไปกับกิจกรรมหลายอย่างที่ชวนทุกคนมาร่วมกันทำอย่างสนุกสนาน เช่น พิซซ่าเตาถ่าน เก็บไช่ไก่อารมณ์ดี

จากนั้น พาไปชมบ้านศิลปินอาจารย์ทรงเดช ทิพย์ทอง เป็นคนเชียงรายตั้งแต่กำเนิด เกิดที่บ้านแม่คำสบเปิน  เป็นศิลปินที่โชว์ผลงานจิตรกรรมที่ผูกพันธ์กับพุทธศาสนา และเจ้าของผลงานแสดงบริเวณศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน ในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 และรับประทานอาหารกลางวัน เป็น ข้าวซอยน้ำเงี้ยว แบบฉบับไทยอง ที่นี่จะใส่ซอสซีอิ้วดำ 

จากนั้น เดินทางไปชุมชนแสนสุข อำเภอแม่จัน เป็นชุมชนชาติพันธ์ุอาข่า มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ของชุมชน และซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชน พร้อมเดินทางกลับ

]

เชียงรายเที่ยวได้ ทั้งปีมีดีทุกเดือน กับท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเสน่ห์ชาติพันธ์ุเชียงราย